๑.กาพย์ห่อโครงประพาสธารทองแดงดีเด่นด้านโวหารใด
๑.บรรยาโวหาร
๒.อุปมาโวหาร
๓.สาธกโวหาร
๔.พรรณนาโวหาร
๒.กาพย์ห่อโครงประพาสธารทองแดงเป็นบทพระราชนิพนธ์ของใคร
๑.เจ้าฟ้ากุ้ง
๒.สุนทรภู่
๓.พระเจ้ามลเฑียรทอง
๔.พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
๓.คำประพันธ์ในข้อใดอ่านแล้วเกิดความสนุกสนานเบิกบานใจ
๑.นกแก้วเจ้าเสียงใส ครอใคร้คู่เสียงสาลิกา
๒.กระต่ายหลายพงศ์พรรค์
เต็นชมจันหันตัวตาม
๓.พังพรายหมู่หลายซร้อง
ในเถื่อนท้องร้องระงม
๔.สือโครงยงปีบเปรี้ยง
แอบโจนเฉียงเสียงพึงกลัว
๔.ในการเสด็จทางชลมารคคำว่า “ชลมารค”เป็นการเดินทางในลักษณะเส้นทางใด
๑.ทางบก
๒.ทางน้ำ
๓.ทางอากาศ
๔.ครึ่งบกครึ่งน้ำ
๕.คำประพันธ์ในข้อใดมีการเลียนเสียธรรมชาติ
๑.ทองแดงเผือกเนียมราย ในเหล่า
๒.ฝูงช้างสร้างใหญ่น้อย พังทลาย
๓.ลงท่าน้ำดำป้วน เล่นร้องฮูมแปร๋น
๔.กระจงกระจิดหน้า เอ็นดู
๖.ข้อใดเป็นคำเอกโทษ
๑.แสนสนุกปลุกใจหวัง วิ่งหรี้
๒.ลางลิงหูลิงลิง หลอกขู้
๓.กระจงกระจิดหน้า เอ็นดู
๔.มีเคี่ยวขาวน้อยช้อย แนบข้างเคียงสอง
๗.ข้อใดมีสัมผัสพยัญชนะมากที่สุด
๑.ขนเหม็นสาบหาบร้าย
กลิ่นกล้าเหมือนกัน
๒.ยูงทองย่องเยื้องย่าง รำฉวาง
๓.รายร่ายฟ่ายเฟื่องหาง เฉิดหน้า
๔.ปากหงอนอ่อนสำอ่าง
ลายเลิศ
๘.ข้อใดสื่อจิตภาพความเคลื่อนไหว
๑.ลิงไต่กระใดลิง ลิงโลดคว้าประสาลิง
๒.เที่ยวเล่นเป็นเกษมสุข แสนสิ่งสนุกปลุกใจหวัง
๓.ไก่ฟ้าอ้าสดแสง หัวสุกแดงแทงเดือยแนม
๔.เลียผาอยู่ภูเขา หนวดพรายเพราเขาแปล้ปลาย
๙. “
ยูงทองย่องเยื้องย่าง รำรางชางช่างฟ่ายหาง
ปากหงอนอ่อนสำอาง ช่างรำเล่นเต้นตามกัน”
คำประพันธ์ข้างต้นใช้กลวิธีใดในการสร้างภาพ
๑.สัทพจน์
๒.นาฏการ
๓.บุคลาธิษฐาน
๔.อติพจน์
๑๐.
เทโพพาพวกพ้อง เทพา
ปลาตะเพียนปลากาพา คู่เคี้ย
สยุมพรอ้ายบ้าปลา หลายหมู่
ปลาผักพร้าม้าเพรี้ย ว่ายไหล้หนวดพราหมณ์
คำประพันธ์ข้างต้นมีคำโทโทษปรากฏอยู่ในบาทใด
๑.
บาทที่๑
๒.
บาทที่๒
๓.
บาทที่๓
๔.
บาทที่๔