วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2557

กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง

บทที่ ๕
กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง

 เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรไชยเชษฐ์สุริยวงศ์  เจ้าฟ้ากุ้ง
ผู้แต่ง                   เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรไชยเชษฐ์สุริยวงศ์  เจ้าฟ้ากุ้ง ทรงเป็นพระโอรสองค์ที่ ๑ ในพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ  เมื่อพระราชบิดาขึ้นครองราชย์ได้สถาปนาตั้งเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรเป็นเจ้าฟ้ากรมขุนเสนาพิทักษ์   เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรทรงมีพระนิสัยสืบมาจากบรรพชนหลายประการ  คือมีพระนิสัยเป็นกวีอย่างสมเด็จพระนารายณ์มหาราช  ทรงดุดันเหมือนสมเด็จพระเจ้าเสือ  เพราะครั้งหนึ่งเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรทรงใช้พระแสงดาบไล่ฟันกรมขุนสุเรนทรพิทักษ์ ซึ่งดำรงเพศเป็นภิกษุจึงต้องหนีไปผนวชอยู่เป็นเวลา ๒ ปี ณ วัดโคกแสง เพื่อให้พ้นพระราชอาญาและได้ทรงนิพนธ์หนังสือเกี่ยวกับศาสนา ๒ เรื่อง คือ นันโทปนันทสูตรคำหลวง กับพระมาลัยคำหลวง เจ้าฟ้ากุ้งได้ลาสมณเพศเมื่อ พ.ศ.๒๒๘๔ พระบิดาคงจะประทานอภัยหายกริ้วแล้ว จึงโปรดให้ดำรงพระยศเป็นพระมหาอุปราช ในระหว่างนี้คงจะได้นิพนธ์เรื่องทำนองพิศวาสที่ทำให้พระองค์ได้ชื่อเสียงว่าเป็นกวีเอกผู้หนึ่ง คือ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง  กาพย์ห่อโคลงนิราศพระบาทและดีที่สุด คือ   กาพย์เห่เรือ   เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรสิ้นพระชนม์ใน พ.ศ. ๒๒๙๘  เพราะทรงเป็นชู้กับเจ้าฟ้าสังวาลซึ่งเป็นพระสนมในพระราชบิดาเป็นเหตุให้ต้องพระราชอาญาโบยจนสิ้นพระชนม์  งานนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรที่รู้จักแพร่หลาย คือ นันทโปนันทสูตรคำหลวง  พระมาลัยคำหลวง  กาพย์เห่เรือ  กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง  กาพย์ห่อโคลงนิราศพระบาทและเพลงยาว

ลักษณะการแต่ง

ลักษณะการแต่ง
                แต่งด้วยกาพย์ห่อโคลง  ประกอบด้วยกาพย์ยานี ๑๑  มี ๑๐๘ บทและโคลงสี่สุภาพ  ๑๑๓ บท ปิดท้ายด้วยโคลงสี่สุภาพ ๒ บท

                ลักษณะของกาพย์ห่อโคลงคือขึ้นต้นด้วยกาพย์ยานี ๑๑  ๑ บท ตามด้วยโคลงสี่สุภาพ ๑ บท  ใจความเหมือนกัน

จุดมุ่งหมายในการแต่ง

จุดมุ่งหมายในการแต่ง
เพื่อความเพลิดเพลินในการชมธรรมชาติระหว่างการเดินทางไปพระพุทธบาทที่จังหวัดสระบุรี เพื่อพรรณนากระบวนเสด็จทางสถลมารคจากท่าเจ้าสนุกถึงธารทองแดง และพรรณนาธรรมชาติบริเวณธารทองแดง

กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒

กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ 
                          เที่ยวเล่นเป็นเกษมสุข              แสนสิ่งสนุกปลุกใจหวัง
                เร่ร่ายผายผาดผัง                              หัวริกรื่นชื่นชมไพร
                          สนุกเกษมเปรมหน้าเหลือบ        ลืมหลัง
                แสนสนุกปลุกใจหวัง                          วิ่งหรี้
                เดินร่ายผายผันยัง                               ชายป่า
                หัวร่อรื่นชื่นชี้                                   ส่องนิ้วชวนแล
                ถอดความ : การเที่ยวเล่นในครั้งนี้ช่างมีความสุข สนุกสนานเหลือเกิน เดินอย่างรวดเร็วเข้าไปในป่า  หัวเราะกระซิกกันอย่างสดชื่นรื่นเริง  โดยการชี้ชวนให้ชมธรรมชาติต่างๆ

                          เลียงผาอยู่ภูเขา                     หนวดพรายเพราเขาแปล้ปลาย
                รูปร่างอย่างแพะหมาย                         ขนเหม็นสาบหยาบเหมือนกัน
                          เลียงผาอยู่พ่างพื้น             ภูเขา
                หนวดพู่ดูเพราเขา                              ไปล่ท้าย
                รูปร่างอย่างแพะเอา                             มาเปรียบ
                ขนเหม็นสาบหยาบร้าย                    กลิ่นกล้าเหมือนกัน          
                ถอดความ : เลียงผาอยู่บนภูเขา  มีรูปร่างคล้ายแพะ  มีหนวดงาม  ปลายเขาโค้งไปข้างหลัง ขนหยาบและมีกลิ่นเหม็นสาบ เช่นเดียวกับแพะ

                          กระจงกระจิดเตี้ย                       วิ่งเรี่ยเรี่ยน่าเอ็นดู
                เหมือนกวางอย่างตาหู                             มีเขี้ยวน้อยสร้อยแนมสอง
                         กระจงกระจิดหน้า                              เอ็นดู
                เดินร่อยเรี่ยงามตรู                                      กระจ้อ
                เหมือนกวางอย่างตาหู                                ตีนกีบ
                มีเคี่ยวขาวน้อยช้อย                                     แนบข้างเคียงสอง
                ถอดความ :  กระจงเป็นสัตว์ที่มีตัวขนาดเล็ก  มองดูน่ารักน่าเอ็นดู  มีตาหูและตีนกีบเหมือนกวาง  มีเขี้ยวน้อยสีขาว  ๒ เขี้ยว  แต่ไม่มีเขา

                        ฝูงลิงใหญ่น้อยกระจุ้ย                   ชะนีอุ่ยอุ้ยร้องหา
                ฝูงค่างหว่างพฤกษา                                ค่างโจนไล่ไขว่ปลายยาง
                         ฝูงลิงยวบยาบต้น                 พวาหนา
                ฝูงชะนีมี่กู่หา                                                เปล่าข้าง
                ฝูงค่างหว่างพฤกษา                                   มาสู่
                ครอกแครกไล่ไขว่คว้าง                                โลดเลี้ยวโจนปลิว
                ถอดความ :  ฝูงลิงขย่มต้นมะม่วงอยู่ยวบยาบ  ฝูงชะนีร้องกู่หาคู่ของมัน  ฝูงค่างกระโดดไปมาระหว่างต้นไม้  ฝูงลิงต่างพากันร้องขู่ตะคอก พร้อมทั้งกระโดดไล่ไขว่คว้ากัน



                     งูเขียวรัดตุ๊กแก                               ตุ๊กแกแก่คางแข็งขยัน
                กัดงูงูยิ่งพัน                                               อ้าปากง่วงล้วงตับกิน
                        งูเขียวแลเหลื้อมพ่น                           พิษพลัน
                ตุ๊กแกคางแข็งขยัน                                   คาบไว้
                กัดงูงูเร่งพัน                                                   ขนดเครียด
                ปากอ้างูจึงได้                                                      ลากล้วงตับกิน
                ถอดความ :  งูเขียวตัวเป็นเงามันแต่ไม่มีพิษ ถูกตุ๊กแกคาบไว้  ในขณะเดียวกันงูเขียวก็รัดตุ๊กแกจนต้องอ้าปาก และเข้าไปล้วงตับตุ๊กแกกินเป็นอาหาร

                                ยูงทองย่องเยื้องย่าง                       รำรางชางช่างฟ่ายหาง
                ปากหงอนอ่อนสำอาง                               ช่างรำเล่นเต้นตามกัน
                                ยูงทองย่องย่างเยื้อง                            รำฉวาง
                รายร่ายฟ่ายเฟื่องหาง                                          เฉิดหน้า
                ปากหงอนอ่อนสำอาง                                        ลายเลิศ
                รำเล่นเต้นงามหง้า                                              ปีกป้องเป็นเพลง
                ถอดความ :  นกยูงทองย่องเยื้องย่าง  แล้วรำแพนหางเชิดหน้าขึ้น  เห็นปากงอนอ่อนช้อย แสดงอาการรำเล่นด้วยการยกปีกขึ้นป้องตามเพลง

                                ไก่ฟ้าอ้าสดแสง                        หัวสุกแดงแทงเดือยแนม
                ปีกหางต่างสีแกม                                       สีแต้มต่างอย่างวาดเขียน
                                ไก่ฟ้าหน้าก่ำกล้า                            ปากแหลม
                หัวแดงเดือยแนม                                 เนื่องแข้ง
                ปีกหางต่างสีแกม                                 ลายลวด
                ตัวด่างอย่างคนแกล้ง                                           แต่งแต้มขีดเขียน
                ถอดความ :  ไก่ฟ้าหน้าสุกใสมีปากแหลม  หัวมีสีแดง  กำลังแทงเดือยขึ้นมา  ปีกหางและลำตัวมีลวดลายงามเหมือนอย่างคนแกล้งแต่งสีให้มัน

                                ดูหนูสู่รูงู                                 งูสุดสู้หนูสู้งู
                หนูงูสู้ดูอยู่                                               รูปงูทู่หนูมูทู
                                ดูงูขู่ฝูดฝู้                                                พรูพรู
                หนูสู่รูงูงู                                                      สุดสู้
                งูสู้หนูหนูสู้                                               งูอยู่
                หนูรู้งูงูรู้                                                              รูปถู้มูทู
                ถอดความ :  งูขู่หนูฟู่ๆ เพราะหนูจะเข้าไปในรูงู  งูจึงสู้กับหนู หนูก็สู้กับงู  สัตว์ทั้งสองต่างก็รู้เชิงซึ่งกันและกัน  โดยทำเป็นมู่ทู่ใส่กัน

                                นกแก้วแจ้วเสียงใส                      คลอไคล้คู่หมู่สาลิกา
                นกตั้วผัวเมียคลา                                        ฝ่าแขกเต้าเหล่าโนรี
                                นกแก้วแจ้วรี่ร้อง                                 เร่หา
                ใกล้คู่หมู่สาลิกา                                                   แวดเคล้า
                นกตั้วผัวเมียมา                                                    สมสู่
                สัตวาฝ่าแขกเต้า                                   พวกพ้องโนรี
                ถอดความ :  นกแก้วร้องแจ้วๆ  เร่ หาคู่  โดยเข้าไปใกล้หมู่นกสาลิกา  ส่วนนกกระตั้ว ๒ ตัวผัวเมียกำลังสมสู่กันอยู่  ในขณะที่นกสัตวาจะต้องฝ่านกแขกเต้าเข้าไปหานกโนรี ซึ่งเป็นพวกพ้องของมัน

                                กระจายสยายซร้องนาง                  ผ้าสไบบางนางสีดา
                ห่อห้อยย้อยลงมา                                      แต่ค่าไม้ใหญ่สูงงาม
                                กระจายสยายคลี่ซร้อง                        นงพงา
                สไบบางนางสีดา                                 ห่อห้อย
                ยื่นเลื้อยเฟื้อยลงมา                                              โบยโบก
                แต่ค่าไม้ใหญ่น้อย                                               แกว่งเยื้องไปมา
                ถอดความ :  ต้นซ้องนางคลี่  และสไบนางสีดา ต่างก็ยื่นเลื้อยห้อยลงมา  แต่ค่าคบไม้น้อยใหญ่  เมื่อยามลมพัดจะแกว่งไปมาดูสวยงามนัก

                                 หัวลิงหมากลางลิง                        ต้นลางลิงแลหูลิง
                ลิงไต่กระไดลิง                                         ลิงโลดคว้าประสาลิง
                                หัวลิงหมากเรียกไม้                            ลางลิง
                ลางลิงหูลิงลิง                                       หลอกขู้
                ลิงไต่กระไดลิง                                    ลิงห่ม
                ลิงโลดฉวยชมผู้                                   ฉีกคว้าประสาลิง
                ถอดความ :  เถาหัวลิง  ต้นหมากลิง และลิงบางตัวก็ขั้นต้นหูลิงทำหน้าหลอกคู่ของมัน  บ้างก็ขึ้นไต่กระไดลิงขย่มเล่น  บ้างก็ตะโกนฉวยชมพู่คว้ามาฉีกเล่นตามภาษาลิง

                                ธารไหลใสสะอาด                        มัจฉาชาติดาษนานา
   หวั่นว่ายกินไคลคลา                                  ตามกันมาให้เห็นตัว
                        ธารไหลใสสะอาดน้ำ                         รินมา
              มัจฉาชาตินานา                                   หวั่นหว้าย
                จอกสร่ายกินไคลคลา                                          เชยหมู่
               ตามคู่มาคล้ายคล้าย                                             ผุดให้เห็นตัว

     ถอดความ :  น้ำในลำธารใสสะอาดไหลรินมา  หมู่ปลานานาชนิด  ต่างหากันว่ายไปมา  กินจอกและสาหร่าย  โดยว่ายตามกันมาเป็นคู่ๆ  และผุดให้เห็นตัวด้วย

คำศัพท์

คำศัพท์ 
กระจิด                            ตัวเล็ก
 กระจุ้ย                            คือ จุ้ย หมายถึงเล็กๆ
 คางแข็งขยัน                   อ้าปากงับได้แน่น
 เคี่ยว                               เป็นรูปเอกโทษของเขี้ยว
 ไคล                                 ตะไคร่น้ำ
 จอก                                ไม้น้ำชนิดหนึ่ง ไม่ีมีลำต้น ใบเป็นแผ่นสีเขียวสดซ้อนๆกัน
 ฉวาง                               ขวาง        
ช้อย                                 อ่อนช้อย
 ซร้องนงพงา                   คือ ซร้องนางหรือช้องนางคลี่
ซร้องนาง                              คือต้นช้องนางคลี่ ไม้อิงอาศัยต้นไม้ใหญ่     
ต้นพวา                             ต้นมะม่วง
 แต่ค่าไม้                           จากคบไม้  
ถู้                                      เป็นรูปโทโทษของทู่ หมายถึง ไม่แหลม
 แปล้                                 แบนราบ
 ไปล่                                 ผาย แบะ
 ผาดผัง, ผายผัน               ไปโดยเร็ว
 พันขนดเครียด                รัดให้แน่นมาก
 เพรา, พรายเพรา             งาม
 มัจฉาชาติ                       หมู่ปลา
 รางชาง                             งาม สวย เด่น
รายร่ายฟ่ายเฟื่องหาง        ฟายหาง เป็นกิริยาของนกยูงเวลารำแพนหาง กวีใช้คำว่า "ฟ่าย" เพื่อเล่นล้อคำเอก
                                                 กับคำว่า “ร่าย” และ “เฟื่อง”
สไบบางนางสีดา                 คือ ต้นสไบนาง เป็นเฟิร์นชนิดหนึ่งอิงอาศัยต้นไม้ใหญ่ในป่าที่ชุ่มชื้น
 สร่าย                               สาหร่าย
 ส่องนิ้ว                            ชี้นิ้ว                                                                       
 หง้า                                  เป็นรูปโทโทษของ ง่า หมายถึง กางออก
 ห่ม                                        ขย่ม                       
 หวั่นหว้าย                       ว่ายไปมา (หว้าย เป็นรูปโทโทษของ ว่าย)
 หัวริกรื่น                          หัวเราะรื่นเริง
 หรี้                                   เป็นรูปโทโทษของ รี่
เหลื้อม                             เป็นรูปโทโทษของ เลื่อม


ที่มา :  หนังสือวรรณคดีวิจักษ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่๒